จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ไดอารี่


                                                        ไดอารี่ของฉัน










วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

เส้นทางรถไฟสายมรณะ

                                       
                        ทางรถไฟสายหฤโหดที่สุด

"ทางรถไฟสายมรณะ" ของบ้านเราก็ติดอันดับด้วยนะ ที่มาของชื่อก็เศร้าตามชื่อนั่นแหละ เล่ากันว่ามีคนงานราวหนึ่งแสนคนเสียชีวิตจากการก่อสร้างทางรถไฟเส้นนี้ ตลอดทั้งสายทำจากไม้ เรียกว่าเก่ามะรอมมะร่อ ถ้าเป็นคนแก่ก็เจ็บออดๆ แอดๆ ต้องวิ่งกันอย่างใจเย็นที่สุด แถมยังมีความยาวถึง 258 ไมล์ จากไทยสู่พม่า
สร้างกันมานานนม กว่าจะเสร็จสิ้น รถไฟได้ชิม "ราง" ในปี ค.ศ. 2002 เป็นดินแดนที่ถูกกล่าวขวัญถึงความสวยงามแห่งภูเขา และลุ่มน้ำอันกว้างใหญ่ จากสภาพภูมิศาสตร์แล้ว การรังสรรค์ทางรถไฟนี้ยากลำบากมาก แต่ท้ายที่สุดก็ถูกเนรมิตจนสมบูรณ์ และไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ จากการก่อสร้างอันทรหดนี้
เป็นทางรถไฟสายเก่าแก่ ไม่มีการบูรณะหรือปรับปรุงใดๆ เรียกว่าใช้มาแค่ไหน ก็ผุกร่อนกันไปตามอายุขัยเท่านั้น ถือเป็นทางรถไฟที่อันตรายที่สุดในเทือกเขาหิมาลัย ตลอดเส้นทางต้องผ่านเนินเขาขรุขระ ผู้คนก็แออัดเบียดเสียด เป็นการคืบคลานที่ทรมานที่สุด
หนึ่งในการเดินทางที่วิเศษที่สุดของอเมริกาใต้ สร้างเสร็จใน ปี ค.ศ. 1932 นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่แหนกันมาสัมผัส เส้นทางยาวถึง 270 ไมล์ ใช้เวลาเดินทางราว 16 ชั่วโมง วิ่งผ่าน 21 อุโมงค์ และสะพานอีก 29 แห่ง เป็นทางรถไฟที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก







สถานที่หนาวที่สุดในโลก


                                 3 อันดับสถานที่หนาวที่สุดในโลก
ระดับความหนาวที่สุดในฤดูหนาว: -93.6 องศาเซลเซียส
เมือง Verkhoyansk ตั้งอยู่ในไซบีเรีย ประเทศ Russia และยังตั้งอยู่ใน Acrtic Circle อีกด้วยค่ะ เมือง Verkhoyansk มีประชากรประมาณ 1,400 คนและเป้น  1 ในเมืองที่เล็กที่สุดของ Russia และคงความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ไว้เพื่อการท่องเที่ยวค่ะ  หน้าหนาวของ Verkhoyansk ก็หนาวจนปวดปอดกันเลยที่เดียวด้วยอุณภูมิระหว่าง -40°C ไปจนถึง -93.6°C ค่ะ
ระดับความหนาวเฉลี่ยในฤดูหนาว: -71.2 องศาเซลเซียส
Oymyakon เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรประมาณ 900 คน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของไซบีเรีย Oymyakon เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านน้ำแข็งเลยทีเดียว เพราะอุณภูมิเฉลี่ยในหน้าหนาวของหมู่บ้านนี้นั้นอยู่ที่  -71.2°C และฤดูหนาวนั้นยาวนานถึง 9 เดือนค่ะ สาเหตุของความหนาวสุดขั้วนี้มาจากแหล่งที่ตั้งของหมู่บ้านนั่นเอง Oymyakon ตั้งอยู่ในแอ่งระหว่างภูเขาสองสามลูก จึงเป็นที่ผ่านของลมเย็นในละแวกนั้นค่ะ
ระดับความหนาวสุดๆ: -89.2 องศาเซลเซียส
บนโลกใบนี้ สถานที่ที่หนาวที่สุดก็คงเป็นที่ใดไปไม่ได้นอกจากทวีป Antarctica เพราะพื้นที่นี้มีเพียง นกเพนกวินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่ได้ และมันจะอยู่เพียงแค่ครึ่งปีก่อนอพยพออกและกลับมาใหม่ปีถัดไปค่ะ หากยกหิมะและน้ำแข็งออกจากทวีป Antarctica แล้ว ก็จะเหลือเพียงแผ่นดินที่เป็นทะเลทรายค่ะ





ประเทศไทย


                           3 อันดับที่สถานที่น่ากลัวที่สุดของประเทศไทย

หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านตัดสินใจลาบวชด้วยความเสียใจที่คนในบ้านตายที่ละคนโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ปล่อยบ้านทิ้งไว้จนกลายเป็นสภาพบ้านร้าง ชาวบ้านบริเวณนั้นนึกว่าเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้ว จึงเข้าไปดูในบ้าน ปรากฏว่าเส้นผมเต็มไปหมด บางคนก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในบ้าน
คู่สามี-ภรรยาเจ้าของบ้านเป็นคนมอญที่มีนิสัยหวงของมาก จะดุด่าคนที่แอบมาขโมยผลไม้ในสวน ด้วยความที่เป็นคนหวงของและดุด่าเก่งมาก จึงทำให้ ถูกฆ่าตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่ท้ายสวน วันหนึ่งมีคนเข้ามาเก็บผลไม้ในสวน แกก็ตามไปทวงถึงบ้าน จนคนที่เก็บไปรีบนำมาคืนแทบไม่ทัน นอกจากจากยังมีศพชาวกะเหรี่ยง 9 ศพ ที่ถูกวิสามัญฝังอยู่บริเวณบ้านหลัง ข้างล่างเจ้าของบ้าน


สถานบันเทิงเก่าแก่ของจังหวัด เปิดให้บริการกับผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศได้มาใช้บริการ ที่แห่งนี้มีหญิงบริการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวถูกบังคับให้รับแขกอย่างทารุณ ไม่ได้พักผ่อน บ้างก็ถูกทำร้ายร่างกาย บ้างก็เป็นโรคร้ายจนสุดท้ายหญิงสาวทั้งหมดได้เสียชีวิตลงที่นี้อย่างมากมาย จนเราเรียกได้ว่าเป็น "สุสานโสเภณี" ซึ่งชาวบ้านบริเวณนั้นมักได้ยินเสียงผู้หญิงและเด็กร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเช้าไปดูก็ไม่พบใครเลย




ทวีปยุโรป


                              สถานที่สำคัญของทวีป ยุโรป

นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ต่างสงสัยว่า คนในสมัยก่อนสามารถยกแท่งหินที่มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ปราศจากเครื่องทุ่นแรงอย่างที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน และบริเวณที่ราบดังกล่าวไม่มีก้อนหินขนาดมหึมานี้ ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าผู้สร้างต้องทำการชักลากแท่งหินยักษ์ทั้งหมดมาจากที่อื่น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก "ทุ่งมาร์ลโบโร" ที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร

 เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี


เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปีหลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา



ประเทศอเมริกาใต้


                                สถานที่สำคัญของอเมริกาใต้
 เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบในประเทศเวเนซุเอลา เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก โดยสูงกว่าน้ำตกไนแอการา ถึง 18 เท่า มีความสูงกว่า 979 เมตร ซึ่งผู้ที่จะเข้าชมน้ำตกสามารถเข้าไปโดยทางเรือและเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งชื่อน้ำตกมาจากนักบินชาวอเมริกัน จิมมี เอนเจล ผู้ค้บพบน้ำตกเป็นคนแรก เมื่อค.ศ. 1935น้ำตกนี้มีลักษณะประหลาดคือ น้ำไม่สามารถตกถึงพื้นได้ เนื่องจากความสูงของน้ำตกสูงมากทำให้กว่าน้ำตกถึงพื้นมันจะกลายเป็นหมอกไปซะก่อน ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีหมอกหนาปกคลุมตลอดเวลา



เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยาสัตววิทยา และนิเวศวิทยาเป็นอย่างยิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์ โดยมีชื่อภาษาสเปนอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเกาะโกลอน (Archipiélago de Colón; Islas de Colón) ตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร ห่างจากทวีปออกไปทางตะวันตก 1,000 กิโลเมตรในปี พ.ศ. 2550 องค์การยูเนสโกได้จัดมรดกโลกแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลกที่อยู่ในสภาวะอันตราย



เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยาสัตววิทยา และนิเวศวิทยาเป็นอย่างยิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์ โดยมีชื่อภาษาสเปนอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเกาะโกลอน (Archipiélago de Colón; Islas de Colón) ตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร ห่างจากทวีปออกไปทางตะวันตก 1,000 กิโลเมตรในปี พ.ศ. 2550 องค์การยูเนสโกได้จัดมรดกโลกแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลกที่อยู่ในสภาวะอันตราย


วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

สถานที่ที่น่ากลัว3อันดับของญี่ปุ่น



สถานที่ที่น่ากลัว3อันดับของญี่ปุ่น


 เกาะแห่งนี้ต้องเดินทางด้วยเรือจากฝั่งทะเลของเมืองนางาซากิ ออกไปประมาณ 15 กิโลกเมตร บนทะเลจีนตะวันออก จะพบเมืองเล็กๆ ที่ดูทันสมัย กลางทะเล แต่ถ้าเกิดมองลึกๆ จะพบว่ามันร้างอย่างน่ากลัว และได้รับการโจษจันว่าผีดุ!!
                ความเป็นมาดั้งเดิมของเกาะนี้  แต่เดิมเมืองนี้ชื่อ Gunkanjia หรือ Battleship Island เกิดขึ้นในยุคที่อุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู ค.ศ. 1887 ก่อสร้างโดยบริษัทมิตซูบิชิ(Mitsubishi) ซึ่งใช้เป็นที่พักในลักษณะเมืองขนาดเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานจำนวนมาก มีทั้งอพาร์เมนต์ โรงเรียนประถม สนามเด็กเล่น โรงภาพยนตร์ บาร์ โรงพยาบาล ทว่า.......ในยุค 60 อุตสาหกรรมถ่านหินในญี่ปุ่นค่อยๆ ทยอยปิดตัวลง เนื่องจากถ่านหินหมอความนิยมจากการใช้พลังงานเชื่อเพลิงอย่างอื่น...จนกระทั่งปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 1974...ทุกวันนี้เหลือเพียงแต่เศษซากของความรุ่งเรืองทิ้งไว้ให้ระลึกถึงอดีต


 ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเพราะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมองว่า การฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกที่มีเกียรติ(อย่างฮาราคีรีไงล่ะ) และสถานที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปฆ่าตัวตายที่สุดคือป่าอาโคคิกาฮาระป่าอาโคคิกาฮาระ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าจูไคซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกขานว่า "ป่าฆ่าตัวตาย"สถานที่แห่ง อยู่บริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ มีพื้นที่ประมาณ 3000 เอเคอร์  ซึ่งเป็นจุดชมความงามของภูเขาฟูจิ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายด้วยเช่นกัน  โดยล่าสุด ชายวัย 46 ปีคนหนึ่ง ซึ่งถูกปลดออกจากงานที่โรงงานเหล็กแห่งหนึ่งและคิดว่า อนาคตที่เหลือนั้นมืดมน เนื่องจากขาดเงิน และตกอยู่ในสภาพหนี้ท่วม รวมถึงไร้ที่อยู่เพราะโดนไล่ที่อยู่ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยเขาได้ซื้อตั๋วเที่ยวเดียว มุ่งหน้าไปยังป่าแห่งนี้ เมื่อไปถึงเขาก็เชือดข้อมือตนเอง แตแผลไม่ลึกพอที่จะทำให้สิ้นใจในทันที และต้องอยู่ในป่าลึกหลายวันในสภาพที่ร่างกายขาดน้ำ อาหารและเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะอากาศเย็นจัด สภาพที่เกิดขึ้นทำให้เขาอาจต้องเสียนิ้วที่เท้าขวา แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากมีผู้มาพบเขาเสียก่อน
 7 เรื่องเล่าสยองขวัญในโรงเรียนกลายเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอยากพิสูจน์ว่ามันมีจริงหรือเปล่า โดย7 เรื่องสยองในโรงเรียนที่ว่าก็มีต้นคาเมลเลียสีเลือดที่ว่ากันว่าต้นไม้ที่อายุ 100 ปีจะมีผีสิงอยู่, ผีลู่ว่ายที่4 ที่มีผีเด็กชายที่ตายในขณะว่ายน้ำในวิชาพละที่ลู่ว่ายที่ 4 , รูปปั้นนิโนมิยะ คินจิโย่เดินได้, บันได 13 ขั้นที่คอยจับเด็กที่พลาดเหยียบบันไดขั้นที่ 13 ลงไปยังโลกแห่งความตายพร้อมกับตน, ฮานาโกะประจำห้องน้ำ, ผีในห้องน้ำห้องที่ 2 อยู่อยู่ๆ ก็มีมือโผล่ที่ส้วมและลากเหยื่อลงไปบี้แบนที่รูส้วมตายอนาถ,สนามรบในสนามโรงเรียนที่วิญญาณซามูไรญี่ปุ่นโบราณยังทำการสู้รบอยู่ตลอดกาล,ซาโตรุคุงฯลฯโดยเฉพาะเรื่องฮานาโกะประจำห้องน้ำ นั้นเป็นเรื่องที่เด็กญี่ปุ่นนิยมท้าพิสูจน์มากที่สุด โดยหากเราเดินเข้าไปในห้องน้ำของโรงเรียนตอนห้าโมงเย็นหรือกลางคืน ถ้าเดินไปที่ห้องที่ 3 แล้วเคาะประตู 3 ครั้ง แล้วพูดว่า "ฮานาโกะ มาเล่นกันเถอะ" หรือ "ฮานาโกะซังอยู่ไหม"ถ้ามีเสียงตอบกลับมาว่า ได้สิ แล้วถ้าเปิดห้องน้ำนั้นดูจะพบเด็กหญิงในห้องน้ำ....นั้นแหละคือเธอ...คุณฮานาโกะซัง