จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

สถานที่ที่น่ากลัว3อันดับของญี่ปุ่น



สถานที่ที่น่ากลัว3อันดับของญี่ปุ่น


 เกาะแห่งนี้ต้องเดินทางด้วยเรือจากฝั่งทะเลของเมืองนางาซากิ ออกไปประมาณ 15 กิโลกเมตร บนทะเลจีนตะวันออก จะพบเมืองเล็กๆ ที่ดูทันสมัย กลางทะเล แต่ถ้าเกิดมองลึกๆ จะพบว่ามันร้างอย่างน่ากลัว และได้รับการโจษจันว่าผีดุ!!
                ความเป็นมาดั้งเดิมของเกาะนี้  แต่เดิมเมืองนี้ชื่อ Gunkanjia หรือ Battleship Island เกิดขึ้นในยุคที่อุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู ค.ศ. 1887 ก่อสร้างโดยบริษัทมิตซูบิชิ(Mitsubishi) ซึ่งใช้เป็นที่พักในลักษณะเมืองขนาดเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานจำนวนมาก มีทั้งอพาร์เมนต์ โรงเรียนประถม สนามเด็กเล่น โรงภาพยนตร์ บาร์ โรงพยาบาล ทว่า.......ในยุค 60 อุตสาหกรรมถ่านหินในญี่ปุ่นค่อยๆ ทยอยปิดตัวลง เนื่องจากถ่านหินหมอความนิยมจากการใช้พลังงานเชื่อเพลิงอย่างอื่น...จนกระทั่งปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 1974...ทุกวันนี้เหลือเพียงแต่เศษซากของความรุ่งเรืองทิ้งไว้ให้ระลึกถึงอดีต


 ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเพราะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมองว่า การฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกที่มีเกียรติ(อย่างฮาราคีรีไงล่ะ) และสถานที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปฆ่าตัวตายที่สุดคือป่าอาโคคิกาฮาระป่าอาโคคิกาฮาระ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าจูไคซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกขานว่า "ป่าฆ่าตัวตาย"สถานที่แห่ง อยู่บริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ มีพื้นที่ประมาณ 3000 เอเคอร์  ซึ่งเป็นจุดชมความงามของภูเขาฟูจิ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายด้วยเช่นกัน  โดยล่าสุด ชายวัย 46 ปีคนหนึ่ง ซึ่งถูกปลดออกจากงานที่โรงงานเหล็กแห่งหนึ่งและคิดว่า อนาคตที่เหลือนั้นมืดมน เนื่องจากขาดเงิน และตกอยู่ในสภาพหนี้ท่วม รวมถึงไร้ที่อยู่เพราะโดนไล่ที่อยู่ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยเขาได้ซื้อตั๋วเที่ยวเดียว มุ่งหน้าไปยังป่าแห่งนี้ เมื่อไปถึงเขาก็เชือดข้อมือตนเอง แตแผลไม่ลึกพอที่จะทำให้สิ้นใจในทันที และต้องอยู่ในป่าลึกหลายวันในสภาพที่ร่างกายขาดน้ำ อาหารและเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะอากาศเย็นจัด สภาพที่เกิดขึ้นทำให้เขาอาจต้องเสียนิ้วที่เท้าขวา แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากมีผู้มาพบเขาเสียก่อน
 7 เรื่องเล่าสยองขวัญในโรงเรียนกลายเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอยากพิสูจน์ว่ามันมีจริงหรือเปล่า โดย7 เรื่องสยองในโรงเรียนที่ว่าก็มีต้นคาเมลเลียสีเลือดที่ว่ากันว่าต้นไม้ที่อายุ 100 ปีจะมีผีสิงอยู่, ผีลู่ว่ายที่4 ที่มีผีเด็กชายที่ตายในขณะว่ายน้ำในวิชาพละที่ลู่ว่ายที่ 4 , รูปปั้นนิโนมิยะ คินจิโย่เดินได้, บันได 13 ขั้นที่คอยจับเด็กที่พลาดเหยียบบันไดขั้นที่ 13 ลงไปยังโลกแห่งความตายพร้อมกับตน, ฮานาโกะประจำห้องน้ำ, ผีในห้องน้ำห้องที่ 2 อยู่อยู่ๆ ก็มีมือโผล่ที่ส้วมและลากเหยื่อลงไปบี้แบนที่รูส้วมตายอนาถ,สนามรบในสนามโรงเรียนที่วิญญาณซามูไรญี่ปุ่นโบราณยังทำการสู้รบอยู่ตลอดกาล,ซาโตรุคุงฯลฯโดยเฉพาะเรื่องฮานาโกะประจำห้องน้ำ นั้นเป็นเรื่องที่เด็กญี่ปุ่นนิยมท้าพิสูจน์มากที่สุด โดยหากเราเดินเข้าไปในห้องน้ำของโรงเรียนตอนห้าโมงเย็นหรือกลางคืน ถ้าเดินไปที่ห้องที่ 3 แล้วเคาะประตู 3 ครั้ง แล้วพูดว่า "ฮานาโกะ มาเล่นกันเถอะ" หรือ "ฮานาโกะซังอยู่ไหม"ถ้ามีเสียงตอบกลับมาว่า ได้สิ แล้วถ้าเปิดห้องน้ำนั้นดูจะพบเด็กหญิงในห้องน้ำ....นั้นแหละคือเธอ...คุณฮานาโกะซัง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น